วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2564

สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรี แถลงผลงานรอบ 1 เดือน ....รุดหน้า เสนอแนวทาง ร่วมพลังภาคเอกชน ฟื้นฟูเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวเพชรบุรี

 

 


สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรี  แถลงผลงานรอบ 1 เดือน ....รุดหน้า
เสนอแนวทาง ร่วมพลังภาคเอกชน ฟื้นฟูเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวเพชรบุรี

 

นับแต่ได้รับการแต่งตั้งจากสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้ ดร.กรัณย์ สุทธารมณ์ รับตำแหน่ง รักษาการ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรี  เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2564 โดยมีภารกิจเพื่อส่งเสริมสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวภายในจังหวัด ภายใต้การทำงานร่วมกันกับภาครัฐ เอกชน และท้องถิ่น  ซึ่งการท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรีถือว่ามีศักยภาพสูงมาก  ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด GPP ภาคบริการและการท่องเที่ยว คิดเป็นร้อยละ 59 มีการจ้างงานบุคลากรด้านการท่องเที่ยวกว่า 35,000 อัตรา ถือเป็นอันดับที่ 3 จากอัตราผู้มีงานทำในจังหวัด หากแต่ภารกิจแรก คือ ช่วยเหลือสนับสนุนภารกิจการควบคุมสถานการณ์โควิด19 ในจังหวัดเพชรบุรี โดยเริ่มจากการประสานนำมะม่วง 2,000 ตัน จาก จังหวัดน่าน มาส่งมอบแก่โรงครัวพระราชทาน เพื่อแจกจ่ายแด่ผู้ต้องกักตัวตามคำสั่งให้ล๊อคดาวน์พื้นที่ 6 ตำบล ในอำเภอเขาย้อย ณ วัดศรีคุณาราม  อ.เขาย้อย เมื่อวันที่ 1 มิย.64 ต่อด้วยการจัดทำป้ายรณรงค์คนเพชรร่วมใจ ฉีดวัคซีน ร่วม Kick off การฉีดวัคซีนทั่วประเทศ เมื่อวันที่  7 มิย. 64 โดยมีการแจกจ่ายป้ายยังจุดฉีดวัคซีนแก่โรงพยาบาลและจุดฉีดวัคซีนต่างๆ  นอกจากนี้สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ และสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจ.เพชรบุรี ได้ร่วมกันจัดทำเข็มกลัด I’m Covid – 19 Vaccinated เพื่อมอบแก่บุคลากรด้านการท่องเที่ยว ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 2 เข็ม (Astrazeneca 1 เข็ม) แก่ โรงแรม ร้านอาหาร ร้านนวดแผนโบราณ สปา รวมถึง ร้านขายของที่ระลึก ทุกแห่งในจังหวัดเพชรบุรี เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวให้มาใช้บริการและท่องเที่ยวในเพชรบุรี รวมถึงจะรวบรวมสถานประกอบการต่างๆ ที่ให้ส่วนลด หรือสิทธิพิเศษแก่นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้ว นำไปประชาสัมพันธ์ เพื่อเป็นการดึงดูดให้นักท่องเที่ยวไทยมาเที่ยวในจังหวัดเพชรบุรีให้มากขึ้นต่อไป

ดร.กรัณย์ สุทธารมณ์  กล่าวเพิ่มเติมว่า  เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดในคลัสเตอร์ อ.เขาย้อย จึงทำให้คนกังวลในการเดินทางมาเพชรบุรี ในขณะที่พื้นที่ท่องเที่ยวอื่นๆในเพชรบุรีสามารถท่องเที่ยวได้ และในเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา ก็มีการเปิดให้บุคคลทั่วไป ได้มาฉีดวัคซีนตามที่ได้ลงทะเบียนในช่องทางต่างๆ ซึ่งบุคลากรด้านการท่องเที่ยวก็ได้รับการฉีดวัคซีนเช่นกัน หากแต่ถ้าบุคคลากรด้านการท่องเที่ยวได้มีการฉีดวัคซีนมากกว่า 70 % ขึ้นไป โอกาสที่การท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรีจะพลิกฟื้นในปลายเดือน สค. นี้ ก็จะมีความเป็นไปได้สูง และการที่บุคลากรด้านการท่องเที่ยวได้ติดเข็มกลัดที่แสดงว่าได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว ก็จะทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความเชื่อมั่นต่อการมาท่องเที่ยวในจังหวัดเพชรบุรี 

 

 


 

นอกจากนี้ในภาพรวมของเศรษฐกิจและด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเพชรบุรี  สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจ.เพชรบุรี ก็ได้ร่วมกับอีก 6 องค์กร ประกาศความร่วมมือที่จะร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวภายใต้ สโลแกน Phetchaburi  Rising เมื่อวันที่ 18 มิย.64 ณ โรงแรมดุสิตธานีหัวหิน  และได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิจากทุกสาขาอาชีพภาคส่วนต่างๆ จำนวน 12 ท่าน มาเป็นที่ปรึกษาให้แก่สภาอุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบุรี อาทิ นายบุญยอด  มาคล้าย ที่ปรึกษากรรมาธิการท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร และอดีตนายกเทศมนตรีหาดเจ้าสำราญ นายประสงค์ รุ่งแสง  กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ   มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์  เป็นต้น เพื่อระดมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการพัฒนาการท่องเที่ยวในจังหวัดเพชรบุรี   ที่สำคัญเพื่อให้สอดรับนโยบายเปิดประเทศ 120 วัน ของรัฐบาล  และ เมื่อวันที่ 28 มิย. ครบรอบ 1 เดือน สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจ.เพชรบุรี จึง ได้เข้าพบเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว เพื่อยื่นข้อเสนอแนวทางและมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยว ต่อท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ใน 3 ด้าน คือ ฟื้นฟูการเงินธุรกิจ – เร่งฉีดวัคซีนคนท่องเที่ยว – ส่งเสริมแคมเปญ Self -  Drive Tourism

 

หากแต่ในอนาคต สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.เพชรบุรี ยังมีแผนเตรียมจัดทำโครงการความร่วมมือ

ในการพัฒนาต้นแบบเขตพื้นที่การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหาร (Region of Gastronomy) ร่วมกับ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ  (บพข.) เพื่อนำไปสู่การพัฒนา เตรียมเปิดเมือง ในรูปแบบใหม่ ที่เน้นการนำอาหารมาสร้างสรรค์เมืองและกิจกรรมท่องเที่ยวในการสร้างแบรนด์ใหม่  และร่วมกับ Ismed  พัฒนาแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวรูปแบบ Cannabis for Wellness ชูจุดขายทรงพลังใหม่ในสายธุรกิจ Health & Wellness ท่องเที่ยวสุขภาพ ด้วยศาสตร์แพทย์แผนไทยและกัญชา  เปลี่ยนอาหารเป็นยา กัญชาเพื่อสุขภาพ  ดื่มดำกับ Series สูตรตำรับอาหารชาววัง แห่งเมืองเพชร ซึ่งจะสอดคล้องกับการที่จังหวัดเพชรบุรี ได้ถูกคัดเลือกจากกระทรวงศึกษาธิการ ให้เป็น 1 ใน 2 เมืองของประเทศ สมัครเข้าเป็นสมาชิก เครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ UNESCO  ด้านอาหาร ในปี 2564 นี้

 

ที่มา:

 

https://youtu.be/TPfAhjnqnFs

 

สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว​ และ​ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจ.เพชรบุรี รับนโยบายเปิดประเทศ 120 วัน กระตุ้นการท่องเที่ยวในจังหวัด

https://pantip.com/topic/40783398

 

สภาอุตฯ-สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว เพชรบุรี ขับเคลื่อนนโยบายเปิดประเทศ 120 วัน

ข่าว : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/944088

 

สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจ.เพชรบุรี"  ร่วมกับ"สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจ.เพชรบุรี" ร่วมขับเคลื่อนนโยบายเปิดประเทศ 120 วัน ข่าว : คมชัดลึก

https://www.komchadluek.net/news/regional/470884

 

สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จ.เพชรบุรี ร่วมขับเคลื่อนนโยบายเปิดประเทศ 120

ข่าว : สนุกดอดคอม

https://www.sanook77.co/17808/

 

เพชรบุรี ร่วมขับเคลื่อนนโยบายเปิดประเทศ 120 วัน มอบเข็มกลัด I’m Covid – 19 Vaccinated

ข่าว :LINE TODAY

https://liff.line.me/1454988218-NjbXbq18/v2/article/BBW7Q6?utm_source=lineshare

 

เพชรบุรี ร่วมขับเคลื่อนนโยบายเปิดประเทศ 120 วัน มอบเข็มกลัด I’m Covid – 19 Vaccinated

ข่าว : เนชั่น TV

https://www.nationtv.tv/main/content/378826855/

 

 

https://www.prachachat.net/local-economy/news-693871

https://www.77kaoded.com/news/prachuppost/2130468

 

สภาอุตฯท่องเที่ยวเพชรบุรี ชูแคมเปญ "Self- Drive Tourism" พลิกฟื้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวภูมิภาค

https://siamrath.co.th/n/256777

 

https://www.nationtv.tv/main/content/378827807/

 

https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/945910

 

สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพชรบุรี ยื่น 3 ข้อเรียกร้อง พลิกฟื้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวภูมิภาค

ข่าว : LINE TODAY

https://liff.line.me/1454988218-NjbXbq18/v2/article/YJ1OQ8?utm_source=lineshare

 

https://www.thairath.co.th/news/local/central/2127021

 

 

วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

One Belt One Road กับเส้นทางตามรอยกวี หลี่ไป๋ w/สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ ไทย-จีน



One Belt One Road กับเส้นทางตามรอยกวี หลี่ไป๋ w/สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน


โดย ดร.กรัณย์ สุทธารมณ์ กรรมการ

สมาคมสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน




จากการประชุมกรรมการสมาคมวัฒนธรรมเศรษฐกิจไทย - จีน ครั้งที่ 2/2562 วันที่ 3 ตค.62  หนึ่งในเรื่องพิจารณาเรื่อง การเชื่อมความสัมพันธ์กลุ่มนักธุรกิจโครงการ Thai - Chinese Young Executive Program (TCYEP) รุ่น 2 ไทย จีน ซึ่งสมาคมฯ ได้รับคำเชิญให้ไปเชิญนักธุรกิจ TCYEP  ไปร่วมงาน เทศกาลวัฒนธรรมลี่ไป๋  15 คน น่าสนใจมาก ... (ว่าแต่หลี่ไป๋ คือ ใคร...)


    สมาคมวัฒนธรรมเศรษฐกิจไทย - จีน ก่อตั้งขึ้นในปี 2536 โดยมี พลเอกชวลิต  ยงใจยุทธ เป็นนายกสมาคมฯ คนแรก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ส่งเสริมความร่วมมือทั้งในเรื่องการทหาร ความมั่นคง รวมถึงการส่งเสริมสันติภาพในภูมิภาค และที่สำคัญ คือการส่งเสริมการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และ การเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันกับสาธารณรัฐประชาชนจีน ปัจจุบัน มี ดร.โภคิน พลกุล เป็นนายกสมาคมฯ คนที่ 5 
 

โชคดีที่มี Passport เล่มสีน้ำเงินอยู่ จึงทำให้ไม่ต้องเสียเวลาไปทำเรื่องขอวีซ่าจีน ....จากโปรแกรมเดิม 3 วัน ทางจีนเสนอว่าจะพาชมสถานที่สำคัญ จึงปรับเป็น  5 วัน ...ยังว่างๆ ลุยๆ  





ระหว่างที่ประเทศไทยมีประชุม ASEAN SUMMIT 2019  ครั้งที่ 49 ระหว่าง 1-5 พย. 62 พวกเราก็กำลังจะไปเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างไทย - จีน ณ เมืองเฉิงตู และเมืองเจียงโยว มณฑลเสฉวน ระหว่าง 31 – 5 พย. 62 เช่นกัน

เช้า 31 ตค. 62 พวกเราเดินทางด้วยสายการบินไทย สมาย์  TG 615  ออก ประมาณ 9 โมง ถึง บ่ายโมง (เวลาจีนเร็วกว่าไทย  1 ชม.) 







พอถึงได้รับการต้อนรับจากทีมชาวจีนมากมาย ที่สำคัญได้สร้างความประทับใจโดยมอบตุ๊กตาหมีแพนด้าให้กับพวกเราทุกคน       พอขึ้นรถมีน้องผิง ผิง ผู้ช่วยคุณกึ้งมานั่งกับเรา ผิงผิงเล่าว่า เมืองเฉิงตู เป็นเมืองเอกของมณฑลเสฉวน มีประชากรกว่า 14 ล้านคน  ถือเป็นเมืองรองที่กำลังมีความเจริญเติบโตสูงมาก มีสัญลักษณ์คือ หมีแพนด้า  ถือว่าเมืองนี้มีหมีแพนด้า เป็น  10 % ของทั้งโลก นอกจากนี้ยังสัญลักษณ์ของเมืองคือมีการแสดงเปลี่ยนหน้ากาก และอาหารหม้อไฟ อาหารเสฉวน ที่มีรสชาติเผ็ดขึ้นชื่อเป็นเอกลักษณ์  ซึ่งคล้ายอาหารไทย







ใช้เวลา ประมาณ  2 ชม. จากเฉิงตู ก็มาถึง เมืองเจียงโยว  เมืองเจียงโยว ถือเป็นเมืองระดับเขต อยู่ภายใต้มณฑลเสฉวน และการบริหารงานของเมืองเหมียนหยาง ถือเป็นต้นน้ำของแม่น้ำแยซี มีประชากรกว่า 8 แสนคน  ที่สำคัญ คือ เป็นบ้านเกิดของกวีเอกชื่อดัง 1 ใน 2 ของราชวงศ์ถัง  คือหลี่ไป๋ นั้นเอง 

      พอมาถึงก็ได้พบกับอีกคณะที่มาผสมกับเรา ก็คือ คณะจากจังหวัดเชียงใหม่ นำโดย ท่านรองผู้ว่าราชการ และนายกเทศมนตรีเชียงใหม่  พร้อมนักแสดงกว่า  70 คน อบอุ่นเลยคราวนี้  จากนั้น ได้พาพวกเราขึ้นมาทานข้าว ที่ชั้น 3 ...และแล้วก้อพบกับโต๊ะจีนยักษ์ ที่ขึ้นชื่อ พร้อมกับอาหารที่ทยอยมาเสริฟ์กว่า 30 อย่าง (เสริฟคนต่อคน  อลังการจิงๆ) พร้อมชนแก้วกับ ผู้บริหารของเมืองเจียงโยว










แล้วจึงได้ไปชมการแสดงที่บริเวณที่จัดงานเทศกาลหลี่ไป๋ ซึ่งเย็นนี้ จะเป็นการแสดงของทางจังหวัดเชียงใหม่  ให้แก่ชาวจีนได้ชม ท่ามกลางจอภาพ LED  และ lighting ที่ตระการตามากๆ  ทำให้การแสดงยิ่งน่าสนใจไปด้วย สลับกับการแสดงร้องเพลงทางทางอุซเบกิสถาน









จากนั้น จึงมาเข้าที่พักที่ โรงแรม Bojing Baden  ซึ่งทางจีนจัดให้เราห้องละคนกันไปเลย 

(ปล.ไม่วายที่ลงมาซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปร้านหน้าโรงแรม ติดขึ้นไปบนห้องพักด้วย)






วันที่  1 พย. 62

เช้านี้ ไปร่วมพิธีเปิดงานเทศกาล Libai Culture festival  คราวนี้ ได้ชมศิลปะของจีนแบบเต็มๆ  (มีแปะป้ายชื่อให้เกียรติแขก และสะดวกต่อการจัดการมากๆ)  จากนั้น จึงเดินชมนิทรรศการมรดกทางวัฒนธรรม ซึ่งเค้าสร้างเป็นอาคารต่างๆ  คล้ายเป็นหมู่บ้านทางวัฒนธรรม และมีนิทรรศการ One belt one road และภาพวาด บทกวีนานาชาติ   รวมถึงศิลปวัฒนธรรมของเมืองเชียงใหม่ด้วย หลี่ไป๋ ถือเป็น กวีจีนที่ได้รับการยกย่องอย่างมาก ถือเป็น 1 ใน 2 คนในประวัติศาสตร์จีน เคียงคู่กับ ตู้ฝู่  บทกวีของหลี่ไป๋ ได้รับอิทธิพลจากจินตภาพของเต๋า และการนิยมชมชอบการดื่มสุรา หลี่ไป๋ได้ใช้เวลาไปกับการท่องเที่ยว งานกวีของหลี่ไป๋ มีมากกกว่า 1,100 ชิ้น ชิ้นที่โด่งดัง Bright Moon, White Clouds  (คล้ายๆ กับ กวีเอกสุนทรภู่บ้านเรา)  























ช่วงบ่าย มาเข้าสู่งานสัมมนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ  ในพิธีเปิดงาน พวกเรามีคุณกึ้ง คุณเฉลิมชัย มหากิจศิริ อุปนายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทยจีน  และประธานรุ่น  TCYEP รุ่น 1  คุณกึ้ง ขึ้นเวที ยกมือไหว้ พร้อมกล่าวแสดงยินดีที่ได้มาร่วมงาน พร้อมยินดีในการส่งเสริมความร่วมมือไทยจีน ...เป็นที่น่าประทับใจยิ่งนัก

















จากนั้น จึงเป็น SECTION แลกเปลี่ยนแนวทางความร่วมมือทางด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวระหว่างไทยจีน พวกเรามี คุณสรัสนันท์  อรรณนพพร  (คุณข้าวฟ่าง) สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร จ.ขอนแก่น   คุณธิษะณา  ชุณหะวัณ  (คุณลูกแก้ว) ผู้บริหาร บริษัท อุดมธุรกิจ จำกัด ตัวแทนนักธุรกิจรุ่น ใหม่ และผม ร่วมกับนักธุรกิจจีน 3 ท่าน (พูดไทยมีล่ามแปลให้)








จำพอได้ว่า ผู้ดำเนินรายการ ถามว่า ในฐานะที่คุณทำธุรกิจโรงแรม  จะมีแนวทางใดที่จะส่งเสริมความร่วมมืออุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย จีน ได้อย่างไร ตอบไปว่า การจะส่งเสริมให้เกิดความเชื่อมโยงการท่องเที่ยวได้ ธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยจำเป็นที่จะต้องส่งเสริมการเรียนรู้  ความเข้าใจในวัฒนธรรมจีน เป็นสำคัญ  ทั้งเรื่อง วัฒนธรรมการกิน การดำรงอยู่ ความชอบไม่ชอบ อะไรของคนจีน  ตลอดจนป้ายสัญลักษณ์ภาษาจีน ซึ่งล้วนมีความจำเป็นต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวร่วมกันอย่างยั่งยืน .... ซึ่งพิธีกรเอง ก็ตอบว่า เค้าเองก็เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ





เย็นนี้ พวกเราทานข้าวที่โรงแรมอีกครั้ง ที่เพิ่มเติม คือ ปูขน ที่คุณจุ๋ม นำมาฝากที่โต๊ะอาหาร





แล้วจึงขึ้นรถมาชมการแสดงที่ Li Bai Memorial Hall ถือว่าเป็นไฮไลค์มาก ทั้งการเล่าเรื่อง การดำเนินชีวิตของหลี่ไป๋ ร่วมกับนักแสดง และการย้อมฉากไฟแบบ 3 D ตื่นตาตื่นใจมากๆๆ














พอกลับมาไม่ทันได้นอน  สัญญาณจากทางคุณแนน แจ้งว่า คุณ Strongkey ผู้นำฝ่ายจีนที่ต้อนรับเรา อยากเลี้ยงอาหารต้อนรับ ....แน่นอนเพื่อมิตรภาพ  ไม่ปฎิเสธ  แล้วก็จัดเต็มอีกครั้ง 








เช้าวันที่ 2 พย. 62

คณะจีน พาพวกเราไปเยี่ยมชมจุดชมวิว Dou Mei Mountain Scenic Spot  ซึ่งเป็นที่หลี่ไป๋ เคยขึ้นมาเขียนบทกวีที่นี้  นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของวัดเก่าแก่ กว่า 300 ปี พร้อมชมการเดินข้ามเขาด้วยเชือก ซึ่งเป็นวิถีของคนในสมัยก่อน














จากนั้น พวกเราได้กลับมาโรงแรมเก็บสัมภาระ  และได้ลองประสบการณ์ใหม่อีกครั้งกับการเดินทางจากเมืองเจียงโยว ไปยังเมืองเฉิงตู โดยรถไฟฟ้าความเร็วสูง (เพียง 40 กว่านาที ก็ถึงที่หมาย)








และแล้ว เราก็มาถึง เมืองเฉิงตูอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยสัญลักษณ์หมีแพนด้า ปีนตึก IFS  และต่อด้วยเดินเล่นที่  หลานกุยฟง  เฉิงตู เรียกว่าเป็นย่านช้อปปี้งที่ผสมผสานความเป็นสมัยใหม่ และเก่าได้อย่างลงตัวทีเดียว








แล้วจึงเข้าพักที่โรงแรม   Si Chuan Jin Jiang   ซึ่งที่นี่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เคยเสด็จมาพักด้วย





วันที่  3 พย. 62

และแล้ววันที่รอคอย ก็มาถึง คือ ศูนย์อนุรักษ์แพนด้า ที่นี้ มีแพนด้ากว่า 40 ตัว แบ่งบริเวณภายในอย่างเป็นสัดส่วน มีโรงพยาบาลที่ดูแลหมีแต่ละตัวเป็นการเฉพาะ  ก่อนเข้าก็ต้องใส่ที่คาดหัวแพนด้าให้ครบทุกคนก่อน

















นั่งรถเข้าไปอย่างลึก ก็มาถึง ....ส่วนที่เป็นแพนด้าแบบเปิด  แบบปิด และมีให้ชม เบบี้แพนด้า  รวมถึงแพนด้าแดงในตำนาน อีกด้วย 

 น่ารักสุดๆ ไปเลยยยย แพนด้า......







ช่วงเที่ยง ได้มาลิ้มลองอาหารเสฉวน กับหม้อไฟหมาล่าเฉิงตู เป็นอะไรที่สุดๆ กับร้านที่ถือว่าเป็นร้านเก่าแก่ ตกแต่งสไตล์จีนโบราณ คล้ายเหมือนอยู่ในวัดจีน แต่สวยงามมากๆ









ช่วงเย็น  ได้มาร่วมงานเลี้ยงระหว่างผู้นำของเมืองเฉินตู นักธุรกิจจีน และนักธุรกิจไทยอีกครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างมิตรภาพที่ดีเยี่ยมมากๆเลย โดยได้มอบผลิตภัณฑ์ขนมหวานจากเมืองเพชรบุรี แก่นักธุรกิจจีนหลายท่านเลยที่สำคัญ พวกเราได้ HBD คุณกึ้ง (วันเกิดพรุ่งนี้) ด้วย ซึ่งเป็นบรรยากาศที่ดีมากๆๆ




















ภาคกลางคืน ได้ไปเยี่ยมชนสถานบันเทิงของจีน play house  สมชื่อจิงๆ เพราะกิจกรรมที่พิเศษมากๆ คือการยิงปืนกระดาษ เรียกว่า ลอยกระจายเต็มทั้งผับกันไปเลย






วันที่ 4  พย. 62

จากสภาพเมื่อคืน ทำให้พวกเราค่อนข้างต้องปรับตัวนิส  ซึ่ง ถือว่าเป็นอีกไฮไลท์ ที่สำคัญเช่น กัน คือการมาเยี่ยมชม บริษัท LEMO​ Chain 1 ​ใน ​5​ สุดยอด​บริษัท ​ Blockchain​ Technology ในจีน  ซึ่งถือว่า เค้านำ เทคโนโลยี Blockchain มาช่วยพัฒนาการศึกษาในประเทศจีนได้อย่างเป็นรูปธรรมแห่งหนึ่ง








และมาดูงานต่อ กับ​บริษัท​ Chengdu​ Shangtang Technology​ อันดับ​1​ด้าน​ Ai​ ของประเทศจีน​ และเทคโนโลยีการใช้ระบบสแกนหน้า​ กับการพัฒนาด้านต่างๆ ที่ถือว่า นำ ai มาช่วยระบบด้านความปลอดภัย ด้านการแพทย์  ด้านการเรียนรู้ ได้อย่างน่าสนใจมากๆ






ช่วงเย็น  ถือเป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญยิ่ง คือ การเชื่อมโยงความสัมพันธ์และความร่วมมือกับผู้บริหาร สถาบันธูรกิจ มหาวิทยาลัยเสฉวน และสมาคมศิษย์เก่า ซึ่งก็มาต้อนรับและพูดคุยกับพวกเราเยอะมากๆ โดยผมได้เป็นตัวแทนสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทยจีน​ กล่าวแนะนำองค์กร​ กับท่านจางลี่หมิง เลขาธิการ​สถาบันธุรกิจ​ มหาวิทยาลัยเสฉวน
ท่านนายกสมาคม​ alumni คณาจารย์​ และนักธุรกิจเมืองเสฉวน







จากนั้นทางมหาวิทยาลัยฯ เป็นเจ้าภาพเชิญพวกเราร่วมทานอาหารเย็น และแลกเปลี่ยน เพื่อทำความรู้จักระหว่างกันให้มากขึ้น ซึ่งก็ได้นั่งคุยกับอุปนายกสมาคม alumi  Mr.ข้าวตู่ (ออกเสียงไทยๆ) ถือเป็นนักธุรกิจจีนที่ประสบความสำเร็จมาก มีความร่วมมือจัดงานและเชื่อมธุรกิจกับทางมอสโคมาหลายปี และปีนี้ อยากร่วมมือกับไทยมากๆ ซึ่งได้นัดพบอีกครั้งที่ไทยเป็นที่เรียบร้อย รวมถึงอีกหลายท่านที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของสายการบิน เจ้าของธุรกิจ Park  หรือ สะใภ้ฝั่งภรรยาท่านนายกหลี่ เค่อ เฉียง เป็นต้น








จากนั้น จึงปล่อยฟรีสไตล์ คุณแนน ผู้ประสานงานได้พาพวกเราไป ไปเดินเล่นซื้อของย่านถนน ควานจ๋าย  ซึ่งถือเป็น Walking Street ที่มีเสน่ห์มากๆ น่ามาปรับใช้กับบ้านเรามาก











วันที่ 5 พย. 62

ก่อนกลับไทย พวกเราได้มาเยี่ยมชมซุปเปอร์มาร์เก็ตสุดไฮเทค​เหอหม่า (ฮิปโป)​ รูปแบบร้านค้าปลีกแบบใหม่​ ไม่ต้องใช้เงินสด ซึ่งถือว่าถือเป็นวิถีชีวิตของชาวจีนในปัจจุบันไปแล้ว ไม่ว่าคนเฒ่าคนแก่ หนุ่มสาว ต่างปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี  ALIPAY และ We chat Pay ของจีน อย่างเต็มรูปแบบไปแล้ว









ทริปนี้ ถือว่าสุดๆ จริงๆ ครบทุกรส ทั้งสาระ-  วิชาการ - บันเทิง - อิ่มอร่อย – วัฒนธรรม -  เทคโนโลยี - ธรรมชาติ และที่สำคัญคือ
มิตรภาพของทางไทย และจีน” ที่นำมาซึ่งความร่วมมือระหว่างกันต่อไปในอนาคตแน่ๆ  (ปล.แถมยังใช้เงินไปเพียง 2 พันกว่าบาทเท่านั้นเอง)





ขอขอบพระคุณสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย จีน  ขอบคุณมิตรภาพเพื่อนๆ ร่วมทริปทุกท่าน จะเก็บไว้ในความทรงจำตลอดไป  เซี่ยะ เซียะ





ปล. ขอขอบคุณ ภาพสวยๆ จากช่างภาพชาวจีน GOGO